15 ส.ค. 2557

Italy Trip Day 4: Bye bye Rome heading to Florence

Day 4 - 3 พ.ค. 2557


Sightseeing
 Duomo di Firenze
Palazzo Vecchio
Vecchio Bridge
Walking around city

     เช้านี้ออกเดินทางกันแบบชิลๆ เพราะจองรอบรถไฟไว้ตอน 9:50 น. ซึ่งนี่คือการนั่งรถไฟข้ามเมืองในอิตาลีครั้งแรก บอกตรงๆ ว่าตื่นเต้น  ^_^/ รถไฟอิตาลีนั้นดูดีและสะอาดมาก รฟท.นั้นไม่สามารถเทียบได้เลย เราใช้เวลาในการเดินทางจากโรมราว 2 ชม. กว่าๆ ก็ถึงฟลอเรนซ์
รถไฟความเร็วสูง / วิวทุ่งหญ้าข้างทางจากโรม-ฟลอเรนซ์
ข้อแนะนำในการนั่งรถไฟ
  • ให้ระวังพวกยิปซีที่อยู่ตามสถานีรถไฟ กลุ่มคนพวกนี้ไม่ได้มาปล้นหรือขโมย แต่จะมาช่วยยกกระเป๋าหรือซื้อตั๋วตามตู้ให้ ฟังดูมีน้ำใจดี แต่จริงๆ เค้าคิดค่าบริการ เท่าไหร่ก็แล้วแต่ใครจะให้ แต่ถ้าไม่อยากให้ช่วยก็ปฏิเสธไปเลย
  • กระเป๋าไม่ควรสูงเกิน 28 นิ้ว หากสูงเกินจะไม่สามารถดันเข้าไปเก็บใต้ชั้นวางกระเป๋า ทำให้ต้องยกขึ้นไปวางอีกชั้นนึง
  • เช็คที่นั่งให้ตรงตามที่ระบุไว้ในตั๋ว หากเจอคนมานั่งที่เรา ก็บอกไปว่านี่ที่เรา (อย่ามาเนียน) ไปนั่งตรงอื่น
  • เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยเพราะฟรี และห้องน้ำบนรถไฟก็สะอาดใช้ได้
     มาถึงฟลอเรนซ์ปุ๊บ ฝนตกหนักปั๊บ เราสองคนจำใจเดินเล่นในสถานี และหาร้านนั่งเพื่อรอเวลาให้ฝนหยุด ช่วงเวลานี้เราก็เลยกางแผนที่ เพื่อหาทางไปที่พัก เพราะที่พักคราวนี้อยู่ห่างจากสถานีพอสมควร เราสองคนเลือกพักที่ B&B Emozioni Fiorentine ซึ่งเป็นที่พักยอดนิยมอันดับที่ 2 จาก 508 ที่พักในหมวดของ B&B ใน Florence (จัดอันดับโดย tripadvisor) ที่พักอยู่ตรง Piazza della Republica 3 สะดวกมากในการเดินเล่นทั่วเมือง
Hotel walking route map
ที่พักอยู่แถวจัตุรัสเลย
     หลังจากฝนหยุด เราสองคนก็ลากกระเป๋าตรงดิ่งไปยังที่พักทันที ประทับใจตั้งแต่แรกเพราะพนักงานลงมารอรับเราตั้งแต่หน้าประตู ที่พักอยู่ชั้น 2 (ที่พักส่วนใหญ่ในอิตาลีหากไม่ใช่โรงแรมมักจะอยู่ตามอาคาร แล้วดัดแปลงเป็นห้องพักให้เช่า) ขอแนะนำเลยว่าหากมา Florence ควรมาพักที่นี่ เพราะห้องสวย สะอาด บรรยากาศดี มีกลิ่นหอมตลอดเวลา ที่สำคัญปลอดภัย ที่นี่ใช้ระบบ key card ทั้งหมด ตั้งแต่ประตูด้านหน้าตึก ประตูด้านใน และประตูห้องพัก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้กุญแจสำรองมาอีก 1 ชุด ในกรณีที่ระบบไฟฟ้าขัดข้อง ราคาห้องพัก 3 คืนตกอยู่ที่ € 559 (€ 547 + city tax คืนละ € 2 ต่อคน) พร้อมอาหารเช้า
convenient location / beautiful room / nice staff
     เก็บข้าวของเสร็จ พักเหนื่อยกันสักแป๊บ ก็ออกเดินเล่นรอบเมืองฟลอเรนซ์ ที่แรกที่ไปคือ Duomo di Firenze อยู่ไม่ไกลจากที่พัก เดินแป๊บเดียวก็ถึง ซึ่งบรรยากาศหลังฝนหยุดมันช่างสร้างความโรแมนติกให้กับเมืองนี้เป็นอีกทวีคูณ
ดูโอโม่ท่ามกลางสายฝน และกำลังอยู่ในช่วงบูรณะ
มุมสวยๆ กับดูโอโม่
     ถ่ายรูปกันสักพัก ก็เดินหาร้าน Gelato ที่เค้าว่ากันว่าอร่อยนั่นคือ GROM อยู่ห่างจากดูโอโม่แค่นิดเดียว ให้เดินเข้าซอยที่เยื้องกับหอระฆัง ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ
GROM map
อร่อยสมคำร่ำลือ
     ร้าน GROM เป็นเจลาโต้ที่อร่อยที่สุดในทริปนี้จริงๆ เนื้อเนียน รสชาติแน่น ถ้าใครไปฟลอเรนซ์อย่าลืมแวะร้านนี้ ซึ่งตรงข้ามร้าน GROM จะมีร้านขายขนมพวก candy / chocolate ซึ่งหน้าตา packaging ก็หลอกล่อให้เราเสียเงินได้ดีจริงๆ
     สดชื่นกับเจลาโต้ก็ออกเดินต่อไปยัง Uffizi Gallery Museum ระหว่างทางเจอร้าน Panini ที่ลือลั่นว่ามันอร่อย (สังเกตได้จากคิวที่รอซื้อ) เราสองคนไม่ได้ลองชิม เพราะยังอิ่มจากเจลาโต้กันอยู่ (แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ลองเพราะหาร้านไม่เจอ และ คุณเพื่อนสนิท ก็ไม่ได้อยากกิน _ _" ) ผ่านร้านขายของกระจุกกระจิก หันไปเห็นที่วางยากันยุง ก็ขำๆ กันว่าพี่อิตาเลี่ยนใช้เหมือนเราเลยแหะ
บรรยากาศ / ร้าน Panini ชื่อดังที่กินคู่กับไวน์แดง / ที่วางยากันยุง
     แล้วเราก็มาถึง Uffizi Gallery Museum ซึ่งมีประติมากรรมหินอ่อน เดวิด (David) จำลองของ มิเคลันเจโล (Michelangelo Buonarroti) ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์ ส่วนของจริงจะอยู่ด้านใน และของฝากแถวนี้ที่ทำให้ฮาได้คือ ทุกสิ่งอย่างจะเน้นที่ "ไข่เดวิด" โดยจะ crop เฉพาะส่วนมาทำเป็น magnet / postcard แล้วก็อะไรอีกหลายอย่าง เสียดายลืมถ่ายรูปมา เพราะมัวแต่ขำกับกลุ่มคุณป้าฝรั่ง ที่ชี้ชวนกันดู "ไข่เดวิด"
ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นส่วนหนึ่งของ “พาลัซโซ เดกลิ อุฟฟิซิ”
     การเข้าชมพิพิธภัณฑ์จะต้องทำการจองล่วงหน้า ไม่ใช่เดินดุ่ยๆ ไปซื้อตั๋วแล้วจะเข้าชมได้เลย ถ่ายรูปกันสักพัก เราสองคนก็ออกเดินต่อไปยังสะพานเวคคิโอ เป็นสะพานที่ขายของแพงๆ เช่น นาฬิกาข้อมือ, เครื่องประดับพวก เพชร พลอย ทอง ฯลฯ
คราคร่ำไปด้วยผู้คน
      ฟลอเรนซ์เป็นเมืองที่เดินง่ายมาก ทุกตรอกทะลุถึงกันหมด แต่เพื่อความมั่นใจควรมี Google Map และแผนที่ธรรมดาพกติดตัวไว้ด้วย และหลังจากเดินชมเมืองมาทั้งวัน เราเริ่มมองหาร้านอาหารสำหรับมื้อเย็น โดยเราสองคนเลือกร้านอาหารที่ blogger ต่างชาติแนะนำมา นั่นคือร้าน Hostaria il desco ร้านนี้เป็นที่นิยมมาก (ดูได้จาก review ใน tripadvisor และ yelp)
บรรยากาศหน้าร้าน / ภายในร้าน
      พอไปถึงร้าน เค้าก็จะถามว่าได้จองไว้หรือเปล่า ซึ่งเราสองคนไม่ได้จองไว้ แต่เค้าก็จัดโต๊ะให้เราได้เพราะเราไปถึงร้านเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ทางร้านจะเสิร์ฟแชมเปญ คล้ายๆ welcome drink สักพักก็จะมารับออเดอร์ พร้อมกับตะกร้าขนมปัง (ความเห็นส่วนตัว: ขนมปังตามร้านอาหารที่อิตาลีไม่ถูกปากเราเลยสักร้าน)
อาหารปริมาณเยอะ รสชาติอร่อย
      ค่าอาหารมื้อนี้ € 39.30 อิ่มหนำสำราญ เดินตัวอ้วนกลับที่พัก จบวันกันไปอย่างสบายใจ 


---- โพสต์หน้าออกเดินทางสู่หอเอนเมืองปิซ่า ----