Day 3 - 2 พ.ค. 2557
Sightseeing
Galleria Borghese
Colosseum
Arch of Constantine
Roman Forum
Campidoglio
เราสองคนเดินเล่น ถ่ายรูปกันเยอะมากท่ามกลางสายฝนปรอยๆ ใน Colosseum เพราะรู้สึกประทับใจในความเก่งกาจของคนสมัยก่อน โดยเฉพาะ คุณเพื่อนสนิท ที่ดูจะปลาบปลื้มกับเจ้า Colosseum มากๆ เพราะมันคือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก (ด้านสถาปัตยกรรม) และการมาที่นี่คือ 1st Mission สำหรับทริปนี้ของ คุณเพื่อนสนิท เพราะเค้าตั้งใจไว้ว่าชีวิตนี้จะต้องไปเยือนให้ครบทั้ง 7 สิ่งมหัศจรรย์รอบโลก o_o และใกล้ๆ Colosseum ก็จะมี Arch of Constantine เป็นซุ้มประตู ถัดมาอีกก็เป็นซากปรักหักพังของ Roman Forum แล้วเราสองคนก็เดินเล่นเก็บบรรยากาศกันที่ Campidoglio ซึ่ง 3 ที่หลังนี้เราสองคนเก็บภาพด้วยตาเท่านั้น เพราะไม่ได้รู้สึกว่าสวยโดดเด่นอะไร แค่เดินเล่นชิลๆ ก็พอแล้ว
โพสต์นี้อาจจะเขียนสั้น แต่จริงๆ วันนั้นใช้เวลาไปครึ่งวันกับ Borghese gallery และอีกครึ่งวันใน Colosseum แค่สองที่ก็ทำเอาขาลากได้ไม่น่าเชื่อ แถมมีสายฝนโปรยปรายเป็นระยะ เดินไปลุ้นไปว่าจะเปียกมั้ยหนอ
เริ่มหิวกันแล้ว มื้อเย็นนี้เราสองคนตัดสินใจลองกินอาหารจีนที่อยู่แถวสถานี Roma Termini เพราะ คุณเพื่อนสนิท ออกอาการเบื่ออาหารอิตาเลี่ยนซะแล้ว ร้านนี้ชื่อว่า Hong Kong F&B - Food & Beverage ซึ่งตอนแรกไม่กล้าเข้า เพราะมันดูมาเฟียยังไงไม่รุ แต่ด้วยเพราะทนความเลี่ยนของอาหารท้องถิ่นไม่ไหวจึงตัดสินใจลองดู ผลปรากฎว่าอร่อยเกินคาด มันช่างเป็นมื้อสุดท้ายในโรมที่สุขสุดๆ จริงๆ *O*
จบวันกันไปอย่างอิ่มหนำสำราญใจ พรุ่งนี้เช้าออกเดินทางสู่ Florence เราสองคนจองรอบรถไฟไว้ตอน 9.50 น. จึงไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้ามากนัก
Roman Forum
Campidoglio
เช้านี้ต้องรีบออกเดินทางเพราะจองคิวเข้า Galleria Borghese ไว้รอบแรกตอน 9 โมงเช้า การไป Galleria Borghese ให้นั่ง Metro Line A (สายสีแดง) จาก Roma Termini มาลงที่สถานี Barberini จากนั้นให้เดินออกทางฝั่ง Via Vittorio Veneto ซึ่งป้ายรถเมล์จะอยู่แถวๆ ทางขึ้นของ metro เลย ซึ่งเราสองคนก็รอรถเมล์สาย 116 ไม่นานนัก (แนะนำให้ดาวน์โหลด Probus Rome เป็น app ที่แสดงสายรถเมล์ต่างๆ และตารางการเดินรถในโรม) สาย 116 จะเป็น electric bus คันเล็กๆ ซึ่งรถจะวิ่งไปจอดใน park หน้า Borghese เลย สะดวกสบายสุดๆ
ก่อนเติมอารมณ์ศิลป์ เราสองคนเติมอาหารให้กับกระเพาะกันก่อน ในแกลอรี่มีคาเฟ่ที่ให้บริการทั้งของคาวและเครื่องดื่ม ซึ่งรสชาติก็เหมือนเดิมคือ อิตาลีแท้ทั้งกาแฟและแซนด์วิช (ที่สำคัญอย่าลืมเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยด้วยล่ะ)
เราใช้เวลาเดินอยู่ในแกลอรี่เป็นชั่วโมง ซึ่งภายในห้ามถ่ายรูป และประติมากรรมที่เราอยากมาเห็นกับตา เรียกว่า Must see! เลย นั่นคือ The Rape of Proserpina
ผลงานของ Gian Lorenzo Bernini
ซึ่งพอได้เห็นของจริงแล้วถึงกับอึ้งในความเป็นอัจฉริยะของคนๆนี้
เพราะแกะสลักหินออกมาได้เหมือนกับเนื้อคนจริงๆ O_O
และภายในแกลอรี่ก็มีทั้งภาพวาดและประติมากรรมอีกหลายอย่างที่จะทำให้อึ้งกัน
แบบ continuous เลยทีเดียว เคยอ่านเจอกระทู้นึงเขียนไว้ว่า หากใครมาถึงโรมแล้วไม่ได้แวะมาชมศิลปะที่นี่ เหมือนกับว่ามาไม่ถึงอิตาลีเลยทีเดียว ซึ่งเราเห็นด้วยจริงๆ
หลังจากเดินเล่นกันใน park อีกสักพัก เราสองคนก็นั่งรถเมล์สาย 116 กลับมายังสถานี Barberini เพื่อไป Colosseum กันต่อ โดยเราจะต้องเปลี่ยนสถานีกันที่ Roma Termini เพราะต้องนั่ง Metro Line B (สายสีน้ำเงิน) ไปขึ้นสถานี Colosseo แต่ก่อนออกเดินทางได้เวลามื้อกลางวันกันแล้ว สำหรับมื้อนี้ เล็งไว้แต่แรกว่าจะมาลอง เป็นร้านเบอร์เกอร์แถว Roma Termini แต่เราสั่งสลัดเพราะร่างกายต้องการไฟเบอร์ ซึ่งความสดของผักมันยิ่งทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้นไปอีก ค่าเสียหายมื้อนี้ €6.30
ท้องอิ่มก็ออกเดินทาง มุ่งหน้าสู่สถานี Colosseo พอขึ้นจากสถานีปุ๊บเราก็จะเห็น Colosseum ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหน้า (แอบเซ็งเล็กน้อย เพราะช่วงที่ไปนั้นตลอดทั้งทริป อิตาลีทำการซ่อมแซมสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่ง ทำให้ได้ภาพไม่สวยสมใจเราเอาซะเลย) การเข้าชม Colosseum หากมี Roma Pass จะสามารถเข้าช่อง fast lane ได้เลย เราสองคนใช้บัตรเบ่งทันที ซึ่งแถวแบบปกตินั้นยาวเหยียด แถมคนที่มารอซื้อตั๋วที่ด้านหน้าทางเข้าก็เยอะมากๆ เราสองคนยื่นบัตรให้เจ้าหน้าที่แล้วก็เดินผ่านฝูงชนมาแบบภาคภูมิใจ >[]<
![]() |
สาย 116 / ด้านหน้า Galleria Borghese |
Panini ชิ้นใหญ่สะใจ แบ่งกันกิน |
หลังจากเดินเล่นกันใน park อีกสักพัก เราสองคนก็นั่งรถเมล์สาย 116 กลับมายังสถานี Barberini เพื่อไป Colosseum กันต่อ โดยเราจะต้องเปลี่ยนสถานีกันที่ Roma Termini เพราะต้องนั่ง Metro Line B (สายสีน้ำเงิน) ไปขึ้นสถานี Colosseo แต่ก่อนออกเดินทางได้เวลามื้อกลางวันกันแล้ว สำหรับมื้อนี้ เล็งไว้แต่แรกว่าจะมาลอง เป็นร้านเบอร์เกอร์แถว Roma Termini แต่เราสั่งสลัดเพราะร่างกายต้องการไฟเบอร์ ซึ่งความสดของผักมันยิ่งทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้นไปอีก ค่าเสียหายมื้อนี้ €6.30
![]() |
ปริมาณ 2 คนกิน |
![]() |
ภายใน และภายนอกของ Colosseum |
โพสต์นี้อาจจะเขียนสั้น แต่จริงๆ วันนั้นใช้เวลาไปครึ่งวันกับ Borghese gallery และอีกครึ่งวันใน Colosseum แค่สองที่ก็ทำเอาขาลากได้ไม่น่าเชื่อ แถมมีสายฝนโปรยปรายเป็นระยะ เดินไปลุ้นไปว่าจะเปียกมั้ยหนอ
เริ่มหิวกันแล้ว มื้อเย็นนี้เราสองคนตัดสินใจลองกินอาหารจีนที่อยู่แถวสถานี Roma Termini เพราะ คุณเพื่อนสนิท ออกอาการเบื่ออาหารอิตาเลี่ยนซะแล้ว ร้านนี้ชื่อว่า Hong Kong F&B - Food & Beverage ซึ่งตอนแรกไม่กล้าเข้า เพราะมันดูมาเฟียยังไงไม่รุ แต่ด้วยเพราะทนความเลี่ยนของอาหารท้องถิ่นไม่ไหวจึงตัดสินใจลองดู ผลปรากฎว่าอร่อยเกินคาด มันช่างเป็นมื้อสุดท้ายในโรมที่สุขสุดๆ จริงๆ *O*
![]() |
ผัดหมี่ / น้ำจิ้มแก้เลี่ยน / เกี๊ยวน้ำ / เป็ดทอดหนังกรอบ อร่อยมาก! |
---- โพสต์หน้าจะพาไปดื่มด่ำบรรยากาศเมืองที่ทุกคนว่ากันว่าโรแมนติก Florence ----